การเลือกซื้อรถยก (Forklift)

การเลือกซื้อรถยก (Forklift)

ปัจจุบันรถยก หรือ รถ Forklift เป็นเครื่องจักรที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้า เนื่องจากรถ Forklift สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของในพื้นที่แคบๆได้อย่างสะดวก จึงมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้การใช้งานในแต่ละกิจการอาจมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวชิ้นงานที่ทำการยก ความสูงของงานยก หรือแม้กระทั่งเรื่องของสภาพแวดล้อมในการใช้งานก็ตาม ดังนั้นผู้ผลิตจึงมีการออกแบบรถ Forklift ให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองให้กับผู้ใช้งานได้มากที่สุด

   บทความนี้จึงเขียนขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่ต้องการเลือกซื้อรถ Forklift มาใช้งาน สามารถใช้ปัจจัยพื้นฐานในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับงานที่จะใช้ยกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

น้ำหนักชิ้นงานที่ใช้ยก :

  ควรเลือกซื้อรถ Forklift ที่มีขนาดพิกัดยกมากกว่าน้ำหนักชิ้นงานประมาณ 500 กก. แต่ไม่จำเป็นต้องเผื่อน้ำหนักมากเกินความจำเป็น เพราะรถ Forklift พิกัดยกยิ่งมากเท่าไหร่ ขนาดของตัวรถก็จะใหญ่ตามขึ้นด้วย และอาจจะตามมาด้วยเรื่องของการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

ความสูงของชิ้นงานที่ทำการยก :

  เลือกซื้อรถ Forklift ให้มีความสูงของเสายกที่สามารถยกได้ถึงอย่างปลอดภัย แต่อย่าลืมคำนึงถึงน้ำหนัก และขนาดของชิ้นงานด้วย เนื่องจากยิ่งยกสูงเท่าไหร่ สมดุลของรถจะยิ่งแย่ลง

สถานที่ใช้งานเหมาะสมกับเชื้อเพลิงแบบใด :

  รถ Forklift มี 2 ประเภท คือ ไฟฟ้า และ เครื่องยนต์ ดังนั้นการเลือกประเภทของรถ Forklift มาใช้งานต้องอิงกับสถานที่เป็นหลัก เช่น ถ้าไม่ต้องการให้มีมลพิษทางอากาศ หรือเสียงรบกวน ควรเลือกใช้แบบไฟฟ้า ถ้าต้องการใช้งานยกขนาดใหญ่ หรือกลางแจ้ง ควรเลือกประเภทเครื่องยนต์ดีเซล ถ้าเป็นงานยกในอาคารขนาดไม่ใหญ่มากนัก และต้องการค่าดูแลรักษาถูกๆ ก็เลือกใช้เป็นประเภทเครื่องยนต์เบนซิน หรือ อาจติดตั้งแก๊ส LPG เพื่อประหยัดค่าเชื้อเพลิงก็ยังได้

ต้นทุนในการซื้อ :

  ปัจจุบันมีรถ Forklift จำหน่าย ทั้งแบบรถใหม่ และรถใช้งานแล้ว สำหรับรถที่ใช้งานแล้ว ราคาจำหน่ายอาจถูกกว่ารถใหม่ประมาณ 50% แต่อาจต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามากกว่ารถใหม่ ดังนั้นควรคำนึงถึงเรื่องบริการหลังการขายด้วย ถ้ามีบริการมาบำรุงรักษาให้จะเสี่ยงน้อยกว่าดูแลรักษาเอง แต่ถ้ารถเกิดขัดข้องระหว่างใช้งาน แล้วส่งผลทำให้งานติดขัด มีความสูญเสีย ก็ควรลงทุนซื้อรถที่เป็นรถใหม่จากดีลเลอร์จะมีความเสี่ยงน้อยกว่า

   ทั้งหมดนี้เป็นเพียงปัจจัยพื้นฐานที่เราจะเลือกซื้อรถ Forklift มาใช้งาน แต่ก็ยังมีปัจจัยรองอื่นๆอีกที่ไม่ได้พูดถึง ซึ่งอาจเกี่ยวกับงบในการซื้อ ยี่ห้อรถ โปรโมชั่น อุปกรณ์พิเศษอื่นๆ เป็นต้น ดังนั้นถ้าเราเลือกซื้อรถที่เหมาะสมมาใช้งาน มันไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องของความประหยัด ความปลอดภัยในการใช้งานก็มากขึ้นด้วย

เราถนัดจะเน้นไปที่ยี่ห้อ NICHIYU เนื่องด้วยตัวของกระผมเอง เคยทำงานบริษัทนี้ เป็นหัวหน้าช่าง แล้วออกมาทำกิจการของตนเอง มีประสบการณ์ทำงานเป็น 10 ปี ไหนๆ บอกว่ามีประสบการณ์แล้ว เราเลยมาแนะนำเกี่ยวกับ เรื่องรถฟอร์คลิฟท์ NICHIYU ให้เพื่อนเพื่อนได้ทราบ ถ้าเรารู้หลักการ เราก็อาจซ่อมและดูแลรถเองได้ไม่ยาก ตัวคันนี้ที่ผมแนะนำใช้ เป็นรุ่น 63 ยืนขับ หลักๆรถรุ่นนี้ มีเอ็มพียูบอร์ด ถ้าเปรียบเป็นคอมพิวเตอร์ ก็คือตัวซีพียู เป็นตัวควบคุมการทำงานของรถ ฟอร์คลิฟท์ปกติจะมีการทำงานอยู่ 3 ระบบ

ระบบแรกคือระบบไฮดรอลิค
จะมีตัวลิมิตเป็นตัวสั่งการ ลิมิตเปิด เอ็มพี่ยู บอร์ด จะรับคำสั่ง มี Out Put ไปสั่งมอเตอร์ให้ทำงาน มอเตอร์ก็จะปั่นปั๊มไฮดรอลิคให้ทำ
เวลาเราโยกก้าน วาล์วก็จะเปิด น้ำมันก็จะวิ่งไปตามก้านที่เราสั่ง การยกการคว่ำหงายนี้ก็คือเรื่องของระบบไฮดรอลิค

ระบบเดินหน้าถอยหลัง
จะมีเรื่องของคันเร่งเป็นตัว In-Put คันเร่งเสร็จ เอ็มพียูบอร์ด ก็ไปสั่งงาน ให้ตัวผ้าขับไปขับมอเตอร์ไดร์ฟ
มอเตอร์ไดร์ฟก็ไปขับล้อ ระบบขับเคลื่อนก็ทำงาน

ระบบพวงมาลัย
จะมีมอเตอร์พวงมาลัย จะมีกล่องควบคุมพวงมาลัย
เวลาหมุนพวงมาลัยเนี่ย จะมีเซ็นเซอร์สั่งการทำงานของพวงมาลัย กล่องพวงมาลัยก็ได้รับคำสั่ง แล้วไปสั่งมอเตอร์อีกทีนึง ระบบพวงมาลัยก็จะทำงาน

เครดิต : อาจารย์ชวนะ วงศ์สหาก